DeepTech พลังแห่งการพลิกโฉมวงการเกษตร
เมื่อกล่าวถึงการเกษตร หลายคนก็จะนึกถึง "เกษตรกร" ที่ลงทุนลงแรงอย่างมากมาย แต่ผลผลิตไม่เป็นตามที่คาด ทั้งปัญหาภัยธรรมชาติ การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่ไม่เป็นอย่างที่เคยเป็น อย่างที่เราเห็นกันว่า มีทั้งเมษาหน้าหนาว ฝนตกนอกฤดู อากาศที่ร้อนกว่าปกติ การพึ่งฟ้าพึ่งฝนที่ยากต่อการควบคุม จนไปถึงผลกระทบสำคัญด้านราคาผลผลิตที่ผันผวน เป็นสิ่งที่สะท้อนว่า เกษตรกรรม เป็นอาชีพที่ “ทำมากได้น้อย”
อย่างไรก็ตาม เกษตรกรรม เป็นอุตสาหกรรมที่เป็นแหล่งอาหารสำคัญของโลก ที่องค์การสหประชาชาติคาดการณ์กันว่า ต้องเพิ่มกำลังการผลิตอาหารให้สูงขึ้นร้อยละ 70 ตามประชากรที่จะสูงถึง 9.9 พันล้านคนทั่วโลก ภายในปี 2050 แต่การทำฟาร์มและการเกษตรในปัจจุบันยังไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร และยังเป็นต้นเหตุของปัญหาโลกร้อนตามมาอีกด้วย ดังนั้นด้วยความก้าวหน้าในเทคโนโลยีต่างๆ ที่จะสามารถช่วยทำนายการเปลี่ยนแปลงธรรมชาติได้อย่างแม่นยำขึ้น เปรียบเสมือนการเอาชนะธรรมชาติที่เกิดขึ้นได้ โดยการสร้างกระบวนการทางเกษตรกรรมที่มีศักยภาพ ตลอดจนสามารถตอบสนองความต้องการของทั่วโลกได้
ด้วยการขับเคลื่อนเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยแก้ปัญหาความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้านความมั่นคงทางอาหารที่เกี่ยวเนื่องกับเกษตรกรทั่วโลกนั้น โดยคลื่นลูกใหม่ที่จะตอบโจทย์ได้คือ เทคโนโลยีเชิงลึก (Deep Technology) ที่เป็นเทคโนโลยีขั้นสูง มีความแตกต่างจากเทคโนโลยีในปัจจุบัน ลอกเลียนแบบได้ยาก ผ่านการวิจัยและพัฒนามาในระยะเวลานาน สร้างให้เกิดผลกระทบที่ตอบโจทย์ปัญหาที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก เช่น เทคโนโลยีชีวภาพ หุ่นยนต์ ข้อมูลขนาดใหญ่และปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งนำไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาการเกษตรตลอดห่วงโซ่มูลค่าให้เพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และสร้างตลาดได้อย่างยั่งยืน ดังนั้น สตาร์ทอัพด้านการเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีเชิงลึก จะเป็นผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงในการพลิกโฉมวงการเกษตร ดังตัวอย่างที่แสดงให้เห็นเส้นทางการเติบโตดังนี้
3 สตาร์ทอัพเกษตรระดับยูนิคอร์นที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีเชิงลึกด้วย ABC-Tech